วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ตร.ชนะสงครามรวบแก๊งแสบ หลอกเรี่ยไรเงินทำบุญ

                                          ผู้ต้องหาแก๊งเรี่ยไรเงินทำบุญ

ตร.ชนะสงครามรวบยกแก๊ง ผู้ต้องหาแอบอ้างชื่อสำนักสงฆ์ จ.ราชบุรี หลอกเรี่ยไรเงินทำบุญทอดผ้าป่า ออกหากินทั่ว กทม. เบื้องต้น แจ้งข้อหาเป็นซ่องโจรเพื่อฉ้อโกงประชาชน 
       
       วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส.สน.ชนะสงคราม ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ทอง รอง สว.สส.สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม แถลงข่าวจับกุม แก๊งมิจฉาชีพหลอกเรี่ยไรเงินประชาชน ได้ผู้ต้องหา 13 ราย ประกอบด้วย น.ส.เนติรักษ์ สุดเสือ อายุ 28 ปี น.ส.กรรณิการ์ เจ็กคอย อายุ 24 ปี นางสุภามาศ จันทร์กระจ่าง อายุ 20 ปี น.ส.วัลลี ผมหอม อายุ 23 ปี นางกาญจนา พุทธา อายุ 29 ปี น.ส.วาสนา เชาวนะ อายุ 23 ปี นางอารีย์ อ่อนสกุล อายุ 43 ปี นายนิคม อ่อนสกุล อายุ 29 ปี นายสมพล สุดเสือ อายุ 34 ปี นายสุวรรณ แก้วโต อายุ 32 ปี นายสนธยา พงษ์พยับ อายุ 26 ปี นายมาโนช มิตรถวิลวัลย์ อายุ 30 ปี และ นายกฤษดา นิลมาก อายุ 24 ปี ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดราชบุรี
       
       พร้อมของกลาง ใบเรี่ยไรทำบุญ ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญ สำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมเขาพระรัตนตรัยพรเทพนิมิต (พุน้ำหยด) จำนวน 2,075 ใบ ไม้เสียบธนบัตร จำนวน 1,100 อัน และธนบัตรฉบับละ 20 บาท จำนวน 2,600 บาท และรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีเขียว ทะเบียน บบ 3104 นครปฐม
       
       พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 12.30 น.ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม ได้จับกุม นายนพพล แซ่จิว ซึ่งนำใบเรี่ยไรเงินทำบุญ มาเดินเร่ขอเรี่ยไรเงินจากประชาชน ตามห้องพักต่างๆ ย่านถนนสามเสน โดยหากห้องพักใดปิดประตูไว้ไม่มีคนอยู่ ผู้ต้องหาก็จะเปิดประตูเพื่อเข้าไปลักทรัพย์ภายในห้องพัก โดยมีผู้เสียหายหลายรายมาชี้ตัวผู้ต้องหา และยืนยันทรัพย์สินที่ถูกขโมย 

   ต่อมา จากการสอบสวนขยายผลทราบว่า ยังมีผู้ร่วมกระทำผิดอีกหลายราย โดยมี น.ส.เนติรักษ์ สุดเสือ เป็นหัวหน้าขบวนการ และเป็นผู้จัดหาใบเรี่ยไรเงินมาใช้หลอกลวงประชาชน และ นายสมพล สุดเสือ จะเป็นคนขับรถกระบะมีหน้าที่ไปรับผู้ร่วมขบวนการตามจุดต่างๆ ในจ.ราชบุรี โดยจุดสุดท้ายที่จะไปรับคือ ที่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้า บิ๊กซีบ้านโป่ง จ.ราชบุรี จึงวางแผนจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 13 ราย ขณะนั่งมากับรถกระบะคันดังกล่าว จากนั้นได้ตรวจสอบกระเป๋าผ้าสีน้ำตาลของน ส.เนติรักษ์ พบว่ามีใบเรี่ยไรทำบุญเป็นจำนวนมาก
       
       รอง ผบก.น.1 กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาแอบอ้างชื่อสำนักสงฆ์และทำตราปั๊มขึ้นมาเอง โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้นำเงินดังกล่าวไปให้ทางสำนักสงฆ์ ทั้งนี้ แก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้มักจะไปเรี่ยไรเงินประชาชนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยจะเรี่ยไรเงินจากประชาชนทั่วพื้นที่กทม. โดยผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการจะได้าค่าจ้างจากน.ส.เนติรักษ์ รายละ 200 บาทต่อวันเท่านั้น ส่วนน.ส.เนติรักษ์ จะมีเงินเหลือหลังจากหักค่าจ้างแล้ว ประมาณ 3,000-4,000 บาท และก่อเหตุมาประมาณ 3-4 เดือน ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
       
       ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาบางรายเคยถูกตำรวจในหลายท้องที่จับกุมดำเนินคดี ข้อหากระทำผิดพ.ร.บ.เรี่ยไรเงิน ซึ่งมีโทษน้อย ปรับเพียง 200 บาท ทำให้ผู้ต้องหาไม่เข็ดหลาบ แต่ครั้งนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีในข้อหาที่หนักกว่าคือ ข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปกระทำการเป็นซ่องโจรเพื่อฉ้อโกงประชาชน อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท พร้อมส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมแจ้งให้ประชาชนที่เคยถูกแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ หลอกลวงเรี่ยไรเงินทำบุญให้มาชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่สน.ชนะสงคราม และสภ.บ้านโป่ง...




ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th : 22 เมษายน 2555 15:57 น.


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น