วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รวบโจ๋ 19 มือยิงพ่อค้าเสื้อดับคาแจ๊ซ อ้างฉุนขับรถปาดหน้า...

                                         บรรดาญาติผู้เสียที่รู้ข่าวต่างมารอดูหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุ

   ตามรวบถึงบุรีรัมย์ โจ๋วัย 19 ยิงพ่อค้าเสื้อสวนจตุจักรดับคารถแจ๊ซ ตร.แกะรอยจากกล้องวงจรปิด ก่อนขอหมายจับค้นบ้านจนพบอาวุธปืนและ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ สารภาพอ้างผู้ตายขับรถปาดหน้าจนยัวะชักปืนยิงใส่รถ 1 นัดแล้วหลบหนี ก่อนมาถูกตามจับตัวได้ พบประวัติเพิ่งถูกปล่อยตัวจากบ้านเมตตามา 4 เดือนแล้วมาก่อเหตุซ้ำ
       
       วันนี้ (1 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.คำรณวิทย ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายภูมิรพี หรือตั้ม ไม้จันทร์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/36 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 15 ม.8 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยมีญาติและเพื่อนของผู้ตายกว่า 30 คนมารอดูคนร้ายพร้อมมอบกระเช้าดอกไม้ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
       

                                         จนท.คุมตัวนายภูมิรพี หรือตั้ม ไม้จันทร์ อายุ 19 ปี มาแถลงผลการจับกุม

       สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ดได้รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายอธิศักดิ์ หรือแบงค์ อริยะแสนสุข อายุ 29 ปี ผู้จัดการฝ่ายขายบริษัท ไทยคอมเนทเวิร์ค จำกัด เสียชีวิตภายในรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ เหตุเกิดที่ ม.สีไชยทอง ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด หลังจากผู้ตายขับรถไปส่งเพื่อนที่หมู่บ้านเดอะลูป ซึ่งอยู่ติดกับที่เกิดเหตุ
       
       จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายใช้จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ เป็นพาหนะโดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่จักรยานยนต์วนกลับเข้าไปภายในบ้านเลขที่ 188/55 ม.7 หมู่บ้านสี่ไชยทองอีกครั้งซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าวจนสามารถตรวจยึดอาวุธปืนขนาด. 38 ที่ใช้ก่อเหตุและจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ-แดง ทะเบียน ลงว 833 กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของนายภูมิรพี หรือตั้ม คนร้ายที่ก่อเหตุแต่คนร้ายไหวตัวหลบหนีไปก่อนแล้ว
       
       เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงทำการสืบสวนต่อจนทราบว่า นายภูมิรพี หรือตั้ม ได้หลบหนีไปกบดานที่บ้านญาติใน อ.สะตึก จ.บุรีรัมย์ จึงทำการติดตามตัวพร้อมประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะตึก จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
       


       สอบสวนนายภูมิรพี หรือตั้ม ไม้จันทร์ ให้การว่า ตนเองมีอาชีพเป็นพนักงานขายของร้านสะดวกซื้อภายในซอยที่เกิดเหตุ โดยวันเกิดเหตุได้ยืมจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจากเพื่อนเพื่อออกไปทำธุระและได้พกอาวุธปืนติดตัวไปด้วย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีการขับรถปาดหน้าไปมากับรถของผู้ตายจนเกิดความโมโห จึงชักอาวุธปืนยิงใส่รถของผู้ตายไปจำนวน 1 นัด จนรถผู้ตายเสียหลักชนเข้ากับเสาไฟฟ้า แล้วรีบขี่รถหลบหนีก่อนจะย้อนกลับมาหมู่บ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อเข้าบ้าน แต่เนื่องจากมีพยานเห็นเหตุการณ์หลายคนจึงรีบหลบหนีไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
       
       ด้าน น.ส.ฉัตรวรินทร์ อริยะแสนสุข อายุ 19 ปี น้องสาวผู้ตาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่ชาย เพราะพี่ชายเป็นเสาหลักของครอบครัวหลังจากพ่อเสียชีวิตลงเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยพี่ชายทำงานทุกอย่างทั้งงานบริษัทและวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ยังออกไปขายเสื้อผ้าที่ตลาดนัดสวนจตุจักรเพื่อนำเงินมาส่งเสียที่บ้าน และส่งตนเองเรียนหนังสืออีกด้วย หลังจากนี้ตนเองกับแม่ยังไม่รู้จะดำเนินชีวิตอย่างไรต่อไป
       
       สำหรับ นายภูมิรพี หรือตั้ม ไม้จันทร์ นั้น จากการสอบประวัติพบว่าเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากสถานพินิจบ้านเมตตามาได้เพียง 4 เดือนในข้อหาชิงทรัพย์รถยนต์ที่ จ.นครราชสีมา ก่อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก...




ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th : 1 พฤษภาคม 2555 14:04 น.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น