This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ตะลึง... รับปลอมวุฒิการศึกษาเกลื่อน Facebook

เป็นเรื่องอับอายขายขี้หน้าวงการศึกษาไทยมานมนานกับปัญหาปลอมวุฒิการศึกษา จนมาโดนตอกหน้าย้ำซ้ำอีกรอบ เมื่อชาวเน็ตตาดีดันเหลือบไปเห็นการปลอมวุฒิหราแบบไม่เกรงกลัวความผิดในเว็บโซเชียลยอดนิยมอย่าง Facebook 
       
       แค่วุฒิการศึกษาก็ยังปลอม
       
        ปัญหาแก้ยังไงก็แก้ไม่ตกกับเรื่องปลอมๆที่คนไทยสามารถปลอมได้ทุกอย่างจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่กระดาษประกาศคุณค่าอย่าง วุฒิการศึกษา ที่มีทุกระดับการศึกษา ทุกสถาบัน แลกกับการลงทุนด้วยเงินเท่านั้นเอง 
       
        ช่องทางการซื้อในสมัยก่อนอาจจะดูยากเย็นแสนเข็ญเพราะต้องไปตามหาร้านรับปลอมแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตามหน้าสถาบัน หรือตามสถาบันกวดวิชา หรือแม้แต่อาจารย์ทางมหาวิทยาลัยบางคนก็มาจับทางนี้เสียเองด้วยการใส่ชื่อเพิ่มลงไปในระบบทะเบียนด้วย 
       
        มาถึงวันนี้กลับยิ่งสะดวกมากขึ้นเมื่อไม่ต้องไปตามหาที่ไหน เพราะปลอมกันง่ายๆซื้อ-ขาย ง่ายเพียงแค่คลิกเดียวผ่านทางออนไลน์ มันเลยกลายเป็นประเด็นที่เย้ยหน้ากระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงไอซีทีไปพร้อมๆกัน อย่างที่เราลองเสิร์ชหาใน Google ก็พบว่ามีขึ้นมาให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหวเลย
       
        "ยินดีให้คำแนะนำ - ปรึกษาสำหรับบุคคลท่านใดที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเรียน เรียนไม่จบ ต้องการ วุฒิการศึกษา ไปใช้แก้ปัญหาต่างๆ ถ้าคุณ กำลังประสบกับ ปัญหาจำพวกนี้อยู่ และต้องการวุฒิการศึกษาแบบเร่งด่วน ภายใน 2-4 อาทิตย์ (แล้วแต่ความยากง่าย) เราช่วยคุณได้!!!
        วุฒิการศึกษา ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ม.6 จากโรงเรียนเอกชน 
        วุฒิการศึกษา ระดับ ปริญญาตรี จากมหาลัยรัฐและเอกชน
        วุฒิการศึกษา ระดับ ปริญญาโท จากมหาลัยรัฐและเอกชน (มีเฉพาะ MBA)
       สอบถามและอัตราค่าบริการที่ transcript4fake@hotmail.com"
       
        คำโฆษณาจาก http://transcript4fake.blogspot.com ที่ทีมงาน Liveค้นเจอบล็อกนี้หลังการค้นหาจาก Google หรือhttp://ajwattana.blogspot.com อีกหนึ่งบล็อกที่แอบอ้างด้วยว่าวุฒิที่ปลอมให้นั้นสามารถตรวจสอบกับทางสถาบันการศึกษาได้แน่นอน ปลอดภัยหายห่วง
       
        "หากคุณมีปัญหาด้านวุฒิการศึกษา เช่น เรียนไม่จบ, เรียนไม่ตรงสายงาน, ปัญหาการสมัครเรียนต่อ, ต้องการนำวุฒิฯไปสมัครงานเพื่อให้ตรงกับสายงาน หรือเพื่อปรับขึ้นเงินเดือนฯลฯ
       ที่นี่..ถือว่ามีผู้ใช้บริการมากที่สุด และไม่เคยมีปัญหาใดๆ ตามมาภายหลัง
       

        เราดำเนินการมากว่า 7 ปี โดยไม่มีปัญหาสักครั้ง สามารถตรวจสอบได้จากกระทรวง และมีชื่อในโรงเรียนอยู่จริง รับแก้ไขปัญหาเรียนไม่จบทุกกรณี ผ่านกระทรวง โดยสามารถใช้ไปสมัครงาน/ศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ สามารถตรวจสอบได้ มีชื่อในฐานข้อมูลของโรงเรียนจริงรับประกันผลงานตรวจสอบได้จริง โดยไม่มีข้อกังขา จะใช้สมัครงานหรือเรียนต่อก็สบายใจ ของจริงแน่นอน เรามีรหัสนักศึกษาให้ตรวจสอบกับฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยได้เลยครับ"
       
        หรืออย่างโฆษณาในเว็บไซต์หนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นอาจารย์รับทำเองและสามารถเข้ารับพิธีรับปริญญาได้ โดยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าทั้งหลายว่าถ้าไม่ได้จะคืนเงินให้ 100%
       
        "รับทำวุฒิการศึกษาจริงๆ ใครโดนหลอก โดนมาหลายที่ ติดต่ออาจารย์ได้เลย ที่นี่ของจริงตรวจสอบได้ สมัครงาน เรียนต่อ หรืออื่นๆได้หมด คืนเงิน 100%ถ้าไม่สามารถสมัครงานได้ รับตั้งแต่ ม 3 ม6 ปวช. ปวส. ปริญญาตรี ป.โท โดยสถาบันเอกชนเท่านั้นที่รับทำ และได้ใบจริงไม่เกิน 1-2 เดือน 
        สนใจติดต่อทางเมล์ได้ที่ ratna01@hotmail.co.th ถึงจะได้เบอร์โทร ไม่ต้องจ่ายเงินก่อน เริ่มแรกได้รหัสนักศึกษาและใบจบเมื่อไหร่ค่อยจ่าย 50% งานเสร็จจ่ายพร้อมนัดพบได้เลย หรือไปรับที่ฝ่ายทะเบียนมหาวิทยาลัยได้เลย และสามารถรับปริญญาบัตรได้"
    
   
        แล้วที่ทำให้ยิ่งเจ็บช้ำก็คือเมื่อมีหน้าเพจรับปลอมวุฒิการศึกษาเกิดขึ้นมาใน Facebook เว็บโซเชียลสุดฮิตของคนยุคนี้ด้วย เห็นอย่างนี้แล้ว ดูเหมือนว่านับวันจะยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมปัญหาเดิมที่ซุกใต้พรมเอาไว้โดยหาทางออกไม่ได้ ให้ยิ่งเรื้อรังเข้าไปอีกหลายเท่าตัว 
       
       ช่องทางหากินมิจฉาชีพปลอมวุฒิ
       
        ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่กระดาษใบเดียว แต่ราคาในการปลอมวุฒินั้นจัดว่าสูงใช้ได้เลยทีเดียว โดยราคาเฉลี่ยของการทำวุฒิการศึกษาปลอมในแต่ละครั้งนั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักแสน ซึ่งจะแพงขึ้นเรื่อยๆตามระดับการศึกษาที่สูงขึ้น 
       
        อย่างระดับประถมศึกษาราคาจะอยู่ที่ 5,000-8,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 12,000-20,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 15,000-22,000 บาท ระดับ ปวช. 20,000-32,000 บาท ระดับ ปวส. 25,000-40,000 บาท 
       
        ส่วนระดับมหาวิทยาลัยจะเริ่มตั้งแต่หลักหมื่นเข้าไป และจะยิ่งแพงแตะระดับแสนหากต้องการเข้าร่วมพิธีรับปริญญาด้วย ซึ่งระดับปริญญาตรีราคาจะตกอยู่ที่ 35,000-90,000 บาท และระดับปริญญาโท 120,000-280,000 บาท 
       

        จากการที่ช่องทางหาซื้อก็ง่ายและขั้นตอนการทำก็ง่ายเพราะลูกค้าแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ส่งรูปหรืออาจจะต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมนิดหน่อย สรุปง่ายๆคือแค่จ่ายเงินก็ได้วุฒิปลอมมาอยู่ในมือแล้ว มันเลยกลายเป็นช่องทางหากินของพวกมิจฉาชีพ โดยคนที่รู้ไม่เท่าทันก็จะยอมโอนเงินไปก่อนแล้วก็จะโดนเชิดเงินไปแบบง่ายๆ สบายๆ 
       
       ผิดกฎหมาย แต่ก็ยังทำ
       
        ครั้งหนึ่งถ้าคนไทยยังจำกันได้สำหรับข่าวครึกโครมเมื่อครั้งนายการุณ โหสกุลที่ดันใช้วุฒิการศึกษาระดับปวส.ปลอม เลยถูกถอนสถานภาพการเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้ง แต่สุดท้ายเรื่องดันพลิกล็อค เมื่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ไม่กำหนดระดับการศึกษาขั้นต่ำของงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้นายการุณยังคงมีคุณสมบัติเป็น ส.ส. ต่อไป ซึ่งครั้งนั้นก็หยามหน้ากระทรวงศึกษาได้จมถนัด เพราะแม้ขนาดนักการเมืองยังใช้วุฒิปลอม ใช้วิธีสกปรกกันเลย
       
        ถึงแม้จะรู้ว่าการปลอมแปลงเอกสารที่ทางราชการออกให้นั้นถือเป็นความผิด แต่ก็มีหลายคนที่ยอมลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งวุฒิปลอม ซึ่งส่วนมากก็นำมาใช้ในการสมัครงานและใช้สำหรับศึกษาต่อเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหลายคนชะล่าใจคิดว่าแค่ปลอมแปลงกระดาษใบเดียวจะไม่เป็นไร แต่ถ้าทางบริษัทอยากตรวจเช็คแล้วล่ะก็สามารถเช็คได้อยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคุณต้องเสียทั้งงานและอาจจะเสียอนาคตด้วยแน่ๆ หากเจ้าของบริษัทคิดจะแจ้งความในข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ 
       
        การปลอมวุฒิการศึกษา ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ์ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท บวกกับมาตรา 268 ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ 
       

       แล้วต้องแก้ปัญหาอย่างไร
       
        ไม่รู้ว่าเพราะกฎหมายมันเบาไปหรือย่างใด พวกรับปลอมวุฒิการศึกษาถึงยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้แบบไม่สะทกสะท้าน เป็นปัญหานี้ที่ยังฝังแน่นอยู่ในสังคมไทย ซึ่ง จิรณี ตันติรัตนวงศ์ ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการศึกษาไทยเป็นเวลานานก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า ปัญหานี้แนวทางแก้ไขเบื้องต้นก็คือการส่งเรื่องไปยังสถานศึกษาเพื่อตรวจสอบ แต่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนนั้นคงต้องรื้อระบบ ปลูกฝังความคิด จิตสำนึกคนในสังคมเสียใหม่
       
        “โดยปกติแล้วจะสามารถให้ทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบได้ว่า วุฒิที่ได้มาเป็นของจริงหรือของปลอม เป็นวุฒิการศึกษาที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยเค้าก็จะมีตรา มีสัญลักษณ์ ถ้าทางบริษัทรับคนมาแล้วเค้าทำงานไม่ได้ ไม่แน่ใจก็สามารถส่งเรื่องให้ทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบได้
       
        ส่วนเรื่องว่าจะแก้ปัญหาการปลอมวุฒิได้ยังไง อันนี้เป็นเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมส่วนบุคคล แล้วก็ต้องเปลี่ยนค่านิยมที่ว่าเป็นสังคมปริญญา คือต้องดูจากความรู้ ความสามารถประกอบด้วยไม่ใช่สนใจแต่เพียงใบปริญญา เราต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติตรงนี้แต่มันก็เป็นเรื่องยากพอสมควรสำหรับสังคมไทย”
       

       …………………………………
       
        เรื่องปลอมวุฒิการศึกษาก็เป็นปัญหามานานโขแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนจะแถลงแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรมสักที สงสัยว่าคงต้องรอให้เด็กป.1 ใช้แทบเล็ตเข้า Facebook ไปสั่งปลอมวุฒิเสียก่อนล่ะมั้ง กระทรวงศึกษาฯ ถึงจะว่างเร่งพิจารณาหาทางออกให้ปัญหานี้สักที  ...
ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th : 20 มิถุนายน 2555 18:06 น.



เปิดภาพอ้าง ปอนด์ TGT เต้นเปลื้องผ้าในผับ

สาวหน้าคล้าย?
   ชาวเน็ตขุดภาพอ้างเป็น “ปอนด์” เต้นเปลื้องผ้าในผับ เผย เจ้าตัวเครียดหนักเก็บตัวเงียบ ขณะที่สื่อนอกตีข่าวไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ จ้างนางแบบนู้ดมาแข่ง โดยมีต่างชาติบางส่วนรู้สึกเฉยๆ สำหรับประเทศที่มีที่เที่ยวกลางคืนที่สาวๆ โชว์ใช้อวัยวะเพศเปิดขวด-ปาลูกดอก

       
       ยังเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจและดูท่าจะไม่จบง่ายๆ กับกรณีสาววัย 23 “ปอนด์ ดวงใจ จันทร์เสือน้อย” หนึ่งในผู้เข้าประกวดรายการ “ไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์” เปลือยอกวาดภาพอย่างโจ๋งครึ่ม จนเกิดกระแสโจมตีจากสังคมถึงความไม่เหมาะสม โดยเฉพาะกับทาง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิต รวมถึงสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
       
       ยิ่งล่าสุดมีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนของ “ปอนด์ ดวงใจ” ได้ออกมาให้รายละเอียด ว่า จริงๆ แล้วเพื่อนของตนเองนั้น มีอาชีพเป็นนางแบบเพนท์เฮาส์ และที่เข้ามาประกวดรายการนี้ ก็เพราะมีคนมาติดต่อโดยให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท จึงตัดสินใจทำ เพราะเห็นว่าเป็นงาน
       
       ซึ่งหลังจากเรื่องราวดังกล่าวแดงออกมา ก็ยิ่งทำให้เรื่องนี้ถูกวิจารณ์หนักขึ้นไปอีก โดยเฉพาะทางเวิร์คพอยท์ ที่ถูกซัดว่า แหกตาคนทั้งประเทศ ทั้งนี้ แม้ทางด้านของ เสี่ยตา บิ๊กบอสเวิร์คพอยท์ จะออกมายืนยันแล้วว่า ไม่มีทีมงานของรายการไปทำเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่ก็ยอมรับว่า อีกฝ่ายอาจจะถูกจ้างมาจริง ผ่านทางเอเยนต์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่แปลก เพราะรายการทีวีรายการอื่นก็ใช้วิธีการเช่นนี้
       
       ทั้งนี้ นับตั้งแต่ตกเป็นข่าว ทางฝ่ายของปอนด์ก็เอาแต่เก็บตัวเงียบ มีเพียงข่าวลือว่า ตอนนี้เจ้าตัวได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รายการแฉแต่เช้า ได้โฟนอิน บุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเอเยนซีทำงานเกี่ยวกับหานางแบบแนวเซ็กซี่มา 10 ปี และรู้จักกับปอนด์ เป็นอย่างดี มาพูดคุยในรายการ
       
       โดยบุคคลดังกล่าว เผยว่า ตอนนี้ปอนด์เครียดมาก ไม่อยากเจอใคร ไปทำงานก็ไม่ได้ ทั้งยังบอกด้วยว่า ส่วนตัวก็ไม่ได้เห็นดีด้วยที่เขาไปออกไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ เพราะมันผิดที่ผิดเวลา ที่ของเราไม่ใช่ที่แบบนั้น พร้อมถามกลับคนที่ตัดสินใจสูงสุดมันใช่น้องหรือไม่?
       
       ทั้งนี้ เจ้าตัวยังแจกแจงต่อด้วยว่า จริงๆ น้องพวกนี้ ทำงานแรงกว่านี้มาก เพียงแต่ไม่ออกสื่อ ถามว่า ถ้ามีคนมาจ้างไปด้วยราคาแบบนี้ไปมั้ย โดยปกติราคาน้องอยู่ที่หลักพัน โชว์วันละพันกว่าบาทถึงสองพัน แต่นี่ได้เป็นหลักหมื่น เขาก็ต้องไป ก่อนยืนยันปอนด์ไม่ใช่นางแบบเพนท์เฮาส์ เพียงแต่ลักษณะการทำงานคล้ายคลึงกับนางแบบเพนท์เฮาส์เท่านั้นเอง
       
       และในฐานะที่ตนทำงานคลุกคลีกับนางแบบแนวนี้ และรู้จักกับปอนด์ อยากให้สังคมเข้าใจ ว่านี่มันคือการทำงาน นี่คือศิลปะ นี่คือการแสดง เพียงแต่มันไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา มันควรจะอยู่ในที่เฉพาะ ส่วนคำถามที่ว่า รู้ว่าจะไปทำแบบนี้ทำไมไม่ปฏิเสธ เอเยนซีคนเดิมก็สวนว่า แล้วทำไมคนที่พาไปไม่ทำอย่างที่ตกลงไว้ แต่รายละเอียดเรื่องนี้ต้องถามปอนด์เอง ว่า หน้างานคุยกันยังไง ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่ารายการเป็นการบันทึกเทปไม่ใช่รายการสดซะหน่อย?!
       
       ซึ่งในขณะที่ปอนด์ยังล่องหนหาตัวไม่เจอ ล่าสุด มีคนโพสต์ภาพสาวเต้นเปลื้องผ้าในผับ โดยอ้างว่าเป็น “ปอนด์ ไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์” ที่อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนและใส่กางเกงในตัวเดียว เต้นโยกย้ายส่ายสะโพกด้วยท่าอล่างฉ่าง ซึ่งภาพดังกล่าวถูกส่งต่อกันในเวลาที่รวดเร็ว และวิจารณ์กันทั่วว่าใช่ตัวจริงหรือไม่?
       
       อย่างไรก็ตาม ประเด็นของปอนด์ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่แค่ในเมืองไทย แต่ได้กลายเป็นประเด็นในหน้าสื่อต่างชาติไปด้วยในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งคลิปใน Youtube รวมถึงในสื่อดังเมืองผู้ดีอย่าง The Sun และ The Daily Mail ทั้งประเด็นการแสดงอันวาบหวิวของสาวไทย รวมถึงข้อสงสัยที่ว่าการโชว์วาดภาพด้วยหน้าอกนี้ รายการอาจมีส่วนร่วมวางแผนเพื่อสร้างกระแสให้เป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ด้วย
       
       ด้านความเห็นของชาวต่างชาติที่ได้ชมคลิป และอ่านข่าวก็เป็นไปอย่างหลากหลาย บ้างก็คิดว่า การแสดงแบบนี้ มีแต่จะทำให้ภาพของผู้หญิงแย่ลง ขณะที่บางคนพยายามมองให้เป็นเรื่องตลก หลายคนเขียนข้อความแทะโลม “ศิลปิน” สาวกันอย่างสนุกสนาน รวมถึงหยิกแกมหยอกไปถึงกรรมการสาว “เบนซ์ พรชิตา” ด้วยว่า ซีเรียสกับการแสดงเกินไป สงสัยเธออาจจะไม่ชอบที่ใครมีหน้าอกใหญ่กว่าอยู่บนเวทีก็ได้ และบางคนยังรู้สึกว่ามันตลกดีที่มีการแสดงเปลือยอยู่บนเวที พร้อมๆ กับที่มีกรรมการมีชื่อว่า “Porn-chita” ที่แปลว่า หนังโป๊ ด้วย
       




"ปอนด์ ดวงใจ จันทร์เสือน้อย"






    
   อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อย ที่รู้สึกเฉยๆ กับการแสดงสุดอื้อฉาวบนเวที Thailand's Got Talent เพราะพวกเขาคิดว่าไม่แปลกอะไรอยู่แล้วกับการแสดงแบบนี้ใน “เมืองไทย” อย่างที่ชาวต่างชาติคนหนึ่งขยายความว่า “สำหรับประเทศที่มีสถานที่อย่าง พัฒนพงษ์ ซึ่งมีการแสดงของสาวๆ ที่ใช้อวัยวะเพศเปิดขวด หรือปาลูกดอกให้ดูแล้ว การใช้นมวาดรูปก็คงไม่ใช่อะไรมากมายหรอก" ชาวต่างชาติที่บอกว่าตัวเองมาจาก ไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย แสดงความเห็น...


ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th : 20 มิถุนายน 2555 16:14 น.




วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สาวเปลือยอก ไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์.. เวียดนามก็ช็อก







แต่ต่อมา “กรรมการสตรีคนหนึ่งได้ --เคาะระฆัง-- หลายครั้งเป็นการปะท้วง ทำให้การแสดงของหญิงสาวหยุดลงก่อนจะแล้วเสร็จ” ซเวินจี๊กล่าว
       
       “ผู้ชมทางโทรทัศน์ก็ไม่ต่างกับผู้ที่ชมผ่านอินเทอร์เน็ต ต่างก็ไม่มีใครชอบรายการนี้นัก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้” สำนักข่าวภาษาเวียดนามรายงาน โดยหมายถึงประเทศไทย
       
       คลิปสาวเพนต์อกในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์มีผู้เข้าไปชมจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในยูทิวบ์ แต่ก็มีคนกด “ไม่ชอบ” มากกว่า “ชอบ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจของผู้ชมส่วนใหญ่ สำนักข่าวออนไลน์กล่าว
       
       ในเวียดนามเองก็เพิ่งเสร็จสิ้นการแข่งขันก็อตทาเลนท์คล้ายกันนี้ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้เป็นฤดูที่ 3 และ ผู้ชนะเลิศปีนี้ เป็นเด็กหญิงวัย 5 ขวบ กับเด็กชาย 11 ขวบ ที่เข้าทีมกันเต้นรำอย่างสวยงามและมีเนื้อหาสร้างสรรค์ส่งเสริมสันติภาพโลก เอาชนะบรรดาผู้ใหญ่
       
       หนูน้อยทั้งสองคนทำให้ผู้ชมทางบ้านเต็มไปด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาเดือนเศษๆ และทุกคน รวมทั้งบรรดาผู้ใหญ่ที่แพ้ ต่างพากันชื่นชอบและยกย่องความสามารถของเด็กตัวเล็กๆคู่นี้...


ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th : 20 มิถุนายน 2555 06:41 น.




วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รวบหนุ่มหื่นลวงนร.ไทยในนอร์เวย์ข่มขืน ถ่ายคลิปแบล็กเมล์

ปฎิพัทธ์ มงคลกาญจนสิริ (คนกลาง)
บก.ปคม. แถลงผลจับกุมผู้ช่วยผู้จัดการร้านท็อปซุปเปอร์มาเก็ต สาขาห้างเซ็นทรัลบางนา แพร่ภาพลามกทางคอมพิวเตอร์ ข่มขืนใจผู้อื่นเพื่อเรียกทรัพย์สิน หลังรู้จักเหยื่อสาวไทยที่ศึกษาอยู่ที่นอร์เวย์ ผ่านโปรแกรมแคมฟรอกและกลับมามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันที่เมืองไทย แต่ผู้ต้องหาแอบถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์และเรียกเงินรวม 1 แสนบาท แต่ผู้ต้องหาอ้างเหตุโกรธแค้นเพราะผู้เสียหายเริ่มตีตัวออกห่าง และไม่ได้เรียกร้องเงิน
       วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 13.30 น.พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ประคัลภ์ แสงส่องฟ้า รอง ผบก.ปคม.พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3 ) กก.1 บก.ปคม. ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายปฎิพัทธ์ มงคลกาจนสิริ อายุ 23 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการร้านท็อปซุปเปอร์มาเก็ต สาขาห้างเซ็นทรัลบางนา อยู่บ้านเลขที่ 108-110 ถ.พระแท่น ต.ตรำคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับศาลอาญา 901/2555 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 2555 ข้อหาแพร่ภาพลามกทางคอมพิวเตอร์ หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา พรากบุคคลอายุไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร ข่มขืนใจผู้อื่นเพื่อเรียกทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยจับกุมตัวได้ที่ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
       
       พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายปฎิพัทธ์ ได้รู้จักกับน.ส.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 17 ที่กำลังศึกษาในระดับไฮสคูลที่ประเทศนอร์เวย์ ทางอินเตอร์เน็ต ผ่านโปรแกรมแคมฟรอกเมื่อสนิทสนมกันจึงออกอุบายให้ น.ส.น้ำเดินทางมาหาที่เมืองไทย จากนั้น น.ส.น้ำ ได้ขออนุญาตมารดาที่พักอยู่ด้วยกันที่ประเทศนอร์เวย์กลับมาเมืองไทย โดยอ้างว่ามาหาญาติ และ มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2554 จากนั้น นายปฎิพัทธ์ ได้ไปรับและพา น.ส.น้ำไปที่บ้านพักใน จ.กาญจนบุรี แล้วมีเพศสัมพันธ์ กันหลายครั้ง พร้อมทั้งแอบถ่ายคลิปไว้ เมื่อ น.ส.น้ำกลับไปยังประเทศนอร์เวย์ นายปฎิพัทธ์ ได้ข่มขู่เรียกเงินจาก น.ส.น้ำ หากไม่ให้จะนำคลิปไปเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต น.ส.น้ำ กลัวว่าภาพอนาจารของตนเองจะถูกประจาน จึงโอนเงินให้ ผู้ต้องหาครั้งแรกประมาณ 1 หมื่นบาท
       พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวต่อว่า จากนั้น นายปฎิพัทธ์ ได้ข่มขู่เรียกเงินอีกหลายครั้งรวมประมาณ 1 แสนบาท เพื่อนำเงินไป เล่นพนันฟุตบอล เมื่อผู้เสียหายไม่มีเงินจะให้ นายปฎิพัทธ์ จึงนำคลิปลามกเผยแพร่ พร้อมทั้งส่งข้อความดูหมิ่นในห้องแคมฟรอกจนได้รับความอับอาย ผู้เสียหายทนไม่ไหว จึงร้องทุกข์ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3 ) กก.1 บก.ปคม.ทางอีเมล์ แล้วมีการสอบปากคำกันทางอีเมล์ ก่อนที่ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ จะออกอุบายให้ผู้เสียหายขอดูภาพลามกผู้ต้องหาถ่ายไว้ เมื่อผู้ต้องหาหลงเชื่อส่งภาพให้ พนักงานสอบสวนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้น น.ส.น้ำ ได้เดินทางมาแจ้งความ พนักงานสอบสวนจึงขอหมายจับจากศาล และตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
       
       สอบสวน นายปฎิพัทธ์ รับสารภาพว่า รู้จักกับผู้เสียหายทางโปรแกรมแคมฟรอกประมาณ 3 เดือน ก่อนที่ผู้เสียหายเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยและให้ตนไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนที่จะพามาเที่ยวที่บ้าน 1 เดือน เมื่อผู้เสียหายเดินทางกลับประเทศตนจับได้ว่าเขาไปแอบคบหากับผู้ชายคนอื่นและนัดเจอกัน จึงเกิดความหึงหวง เพราะตนรัก น.ส.น้ำ มาก ทั้งนี้เงินที่ ผู้เสียหายส่งมาให้เพราะสงสารที่ตนเป็นหนี้พนันฟุตบอล 25,000 บาทและทางบ้านตนค่อนข้างลำบาก ส่วนเรื่องคลิปนั้นเป็นคลิปที่ผู้เสียหายโชว์ผ่านเว็บแคมที่ตนได้แอบบันทึกไว้ จากนั้นได้นำไปเผยแพร่ทางยูทูบ แต่ถูกลบออกไป จึงนำไปแปะไว้ในหน้าเฟซบุ๊คของผู้เสียหาย เพื่อใช้เป็นข้ออ้างให้ ผู้เสียหายกลัวและกลับมาคืนดีกัน
       
       “ยอมรับว่าที่ลงมือไปตอนนั้นเป็นอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากโกรธแค้นที่ผู้เสียหายตีตัวออกห่างไปมีแฟนใหม่ ซึ่งผมยอมรับไม่ได้เพราะรักผู้หญิงคนนี้มาก ส่วนเงินก็ไม่เคยไปเรียกร้องหรือข่มขู่ เขามาอาศัยที่บ้านผม 1 เดือน เห็นสภาพครอบครัวผมแล้วเกิดสงสารจึงส่งเงินมาให้ใช้เอง” นายปฎิพัทธ์ กล่าว
       
       ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป...


ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th : 18 มิถุนายน 2555 16:13 น.