เป็นเรื่องอับอายขายขี้หน้าวงการศึกษาไทยมานมนานกับปัญหาปลอมวุฒิการศึกษา จนมาโดนตอกหน้าย้ำซ้ำอีกรอบ เมื่อชาวเน็ตตาดีดันเหลือบไปเห็นการปลอมวุฒิหราแบบไม่เกรงกลัวความผิดในเว็บโซเชียลยอดนิยมอย่าง Facebook
แค่วุฒิการศึกษาก็ยังปลอม
ปัญหาแก้ยังไงก็แก้ไม่ตกกับเรื่องปลอมๆที่คนไทยสามารถปลอมได้ทุกอย่างจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่กระดาษประกาศคุณค่าอย่าง วุฒิการศึกษา ที่มีทุกระดับการศึกษา ทุกสถาบัน แลกกับการลงทุนด้วยเงินเท่านั้นเอง
ช่องทางการซื้อในสมัยก่อนอาจจะดูยากเย็นแสนเข็ญเพราะต้องไปตามหาร้านรับปลอมแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตามหน้าสถาบัน หรือตามสถาบันกวดวิชา หรือแม้แต่อาจารย์ทางมหาวิทยาลัยบางคนก็มาจับทางนี้เสียเองด้วยการใส่ชื่อเพิ่มลงไปในระบบทะเบียนด้วย
มาถึงวันนี้กลับยิ่งสะดวกมากขึ้นเมื่อไม่ต้องไปตามหาที่ไหน เพราะปลอมกันง่ายๆซื้อ-ขาย ง่ายเพียงแค่คลิกเดียวผ่านทางออนไลน์ มันเลยกลายเป็นประเด็นที่เย้ยหน้ากระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงไอซีทีไปพร้อมๆกัน อย่างที่เราลองเสิร์ชหาใน Google ก็พบว่ามีขึ้นมาให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหวเลย
"ยินดีให้คำแนะนำ - ปรึกษาสำหรับบุคคลท่านใดที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเรียน เรียนไม่จบ ต้องการ วุฒิการศึกษา ไปใช้แก้ปัญหาต่างๆ ถ้าคุณ กำลังประสบกับ ปัญหาจำพวกนี้อยู่ และต้องการวุฒิการศึกษาแบบเร่งด่วน ภายใน 2-4 อาทิตย์ (แล้วแต่ความยากง่าย) เราช่วยคุณได้!!!
วุฒิการศึกษา ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ม.6 จากโรงเรียนเอกชน
วุฒิการศึกษา ระดับ ปริญญาตรี จากมหาลัยรัฐและเอกชน
วุฒิการศึกษา ระดับ ปริญญาโท จากมหาลัยรัฐและเอกชน (มีเฉพาะ MBA)
สอบถามและอัตราค่าบริการที่ transcript4fake@hotmail.com"
คำโฆษณาจาก http://transcript4fake.blogspot.com ที่ทีมงาน Liveค้นเจอบล็อกนี้หลังการค้นหาจาก Google หรือhttp://ajwattana.blogspot.com อีกหนึ่งบล็อกที่แอบอ้างด้วยว่าวุฒิที่ปลอมให้นั้นสามารถตรวจสอบกับทางสถาบันการศึกษาได้แน่นอน ปลอดภัยหายห่วง
"หากคุณมีปัญหาด้านวุฒิการศึกษา เช่น เรียนไม่จบ, เรียนไม่ตรงสายงาน, ปัญหาการสมัครเรียนต่อ, ต้องการนำวุฒิฯไปสมัครงานเพื่อให้ตรงกับสายงาน หรือเพื่อปรับขึ้นเงินเดือนฯลฯ
ที่นี่..ถือว่ามีผู้ใช้บริการมากที่สุด และไม่เคยมีปัญหาใดๆ ตามมาภายหลัง
เราดำเนินการมากว่า 7 ปี โดยไม่มีปัญหาสักครั้ง สามารถตรวจสอบได้จากกระทรวง และมีชื่อในโรงเรียนอยู่จริง รับแก้ไขปัญหาเรียนไม่จบทุกกรณี ผ่านกระทรวง โดยสามารถใช้ไปสมัครงาน/ศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ สามารถตรวจสอบได้ มีชื่อในฐานข้อมูลของโรงเรียนจริงรับประกันผลงานตรวจสอบได้จริง โดยไม่มีข้อกังขา จะใช้สมัครงานหรือเรียนต่อก็สบายใจ ของจริงแน่นอน เรามีรหัสนักศึกษาให้ตรวจสอบกับฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยได้เลยครับ"
หรืออย่างโฆษณาในเว็บไซต์หนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นอาจารย์รับทำเองและสามารถเข้ารับพิธีรับปริญญาได้ โดยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าทั้งหลายว่าถ้าไม่ได้จะคืนเงินให้ 100%
"รับทำวุฒิการศึกษาจริงๆ ใครโดนหลอก โดนมาหลายที่ ติดต่ออาจารย์ได้เลย ที่นี่ของจริงตรวจสอบได้ สมัครงาน เรียนต่อ หรืออื่นๆได้หมด คืนเงิน 100%ถ้าไม่สามารถสมัครงานได้ รับตั้งแต่ ม 3 ม6 ปวช. ปวส. ปริญญาตรี ป.โท โดยสถาบันเอกชนเท่านั้นที่รับทำ และได้ใบจริงไม่เกิน 1-2 เดือน
สนใจติดต่อทางเมล์ได้ที่ ratna01@hotmail.co.th ถึงจะได้เบอร์โทร ไม่ต้องจ่ายเงินก่อน เริ่มแรกได้รหัสนักศึกษาและใบจบเมื่อไหร่ค่อยจ่าย 50% งานเสร็จจ่ายพร้อมนัดพบได้เลย หรือไปรับที่ฝ่ายทะเบียนมหาวิทยาลัยได้เลย และสามารถรับปริญญาบัตรได้"
แล้วที่ทำให้ยิ่งเจ็บช้ำก็คือเมื่อมีหน้าเพจรับปลอมวุฒิการศึกษาเกิดขึ้นมาใน Facebook เว็บโซเชียลสุดฮิตของคนยุคนี้ด้วย เห็นอย่างนี้แล้ว ดูเหมือนว่านับวันจะยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมปัญหาเดิมที่ซุกใต้พรมเอาไว้โดยหาทางออกไม่ได้ ให้ยิ่งเรื้อรังเข้าไปอีกหลายเท่าตัว
ช่องทางหากินมิจฉาชีพปลอมวุฒิ
ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่กระดาษใบเดียว แต่ราคาในการปลอมวุฒินั้นจัดว่าสูงใช้ได้เลยทีเดียว โดยราคาเฉลี่ยของการทำวุฒิการศึกษาปลอมในแต่ละครั้งนั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักแสน ซึ่งจะแพงขึ้นเรื่อยๆตามระดับการศึกษาที่สูงขึ้น
อย่างระดับประถมศึกษาราคาจะอยู่ที่ 5,000-8,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 12,000-20,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 15,000-22,000 บาท ระดับ ปวช. 20,000-32,000 บาท ระดับ ปวส. 25,000-40,000 บาท
ส่วนระดับมหาวิทยาลัยจะเริ่มตั้งแต่หลักหมื่นเข้าไป และจะยิ่งแพงแตะระดับแสนหากต้องการเข้าร่วมพิธีรับปริญญาด้วย ซึ่งระดับปริญญาตรีราคาจะตกอยู่ที่ 35,000-90,000 บาท และระดับปริญญาโท 120,000-280,000 บาท
จากการที่ช่องทางหาซื้อก็ง่ายและขั้นตอนการทำก็ง่ายเพราะลูกค้าแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ส่งรูปหรืออาจจะต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมนิดหน่อย สรุปง่ายๆคือแค่จ่ายเงินก็ได้วุฒิปลอมมาอยู่ในมือแล้ว มันเลยกลายเป็นช่องทางหากินของพวกมิจฉาชีพ โดยคนที่รู้ไม่เท่าทันก็จะยอมโอนเงินไปก่อนแล้วก็จะโดนเชิดเงินไปแบบง่ายๆ สบายๆ
ผิดกฎหมาย แต่ก็ยังทำ
ครั้งหนึ่งถ้าคนไทยยังจำกันได้สำหรับข่าวครึกโครมเมื่อครั้งนายการุณ โหสกุลที่ดันใช้วุฒิการศึกษาระดับปวส.ปลอม เลยถูกถอนสถานภาพการเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้ง แต่สุดท้ายเรื่องดันพลิกล็อค เมื่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ไม่กำหนดระดับการศึกษาขั้นต่ำของงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้นายการุณยังคงมีคุณสมบัติเป็น ส.ส. ต่อไป ซึ่งครั้งนั้นก็หยามหน้ากระทรวงศึกษาได้จมถนัด เพราะแม้ขนาดนักการเมืองยังใช้วุฒิปลอม ใช้วิธีสกปรกกันเลย
ถึงแม้จะรู้ว่าการปลอมแปลงเอกสารที่ทางราชการออกให้นั้นถือเป็นความผิด แต่ก็มีหลายคนที่ยอมลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งวุฒิปลอม ซึ่งส่วนมากก็นำมาใช้ในการสมัครงานและใช้สำหรับศึกษาต่อเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหลายคนชะล่าใจคิดว่าแค่ปลอมแปลงกระดาษใบเดียวจะไม่เป็นไร แต่ถ้าทางบริษัทอยากตรวจเช็คแล้วล่ะก็สามารถเช็คได้อยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคุณต้องเสียทั้งงานและอาจจะเสียอนาคตด้วยแน่ๆ หากเจ้าของบริษัทคิดจะแจ้งความในข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ
การปลอมวุฒิการศึกษา ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ์ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท บวกกับมาตรา 268 ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ
แล้วต้องแก้ปัญหาอย่างไร
ไม่รู้ว่าเพราะกฎหมายมันเบาไปหรือย่างใด พวกรับปลอมวุฒิการศึกษาถึงยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้แบบไม่สะทกสะท้าน เป็นปัญหานี้ที่ยังฝังแน่นอยู่ในสังคมไทย ซึ่ง จิรณี ตันติรัตนวงศ์ ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการศึกษาไทยเป็นเวลานานก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า ปัญหานี้แนวทางแก้ไขเบื้องต้นก็คือการส่งเรื่องไปยังสถานศึกษาเพื่อตรวจสอบ แต่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนนั้นคงต้องรื้อระบบ ปลูกฝังความคิด จิตสำนึกคนในสังคมเสียใหม่
“โดยปกติแล้วจะสามารถให้ทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบได้ว่า วุฒิที่ได้มาเป็นของจริงหรือของปลอม เป็นวุฒิการศึกษาที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยเค้าก็จะมีตรา มีสัญลักษณ์ ถ้าทางบริษัทรับคนมาแล้วเค้าทำงานไม่ได้ ไม่แน่ใจก็สามารถส่งเรื่องให้ทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบได้
ส่วนเรื่องว่าจะแก้ปัญหาการปลอมวุฒิได้ยังไง อันนี้เป็นเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมส่วนบุคคล แล้วก็ต้องเปลี่ยนค่านิยมที่ว่าเป็นสังคมปริญญา คือต้องดูจากความรู้ ความสามารถประกอบด้วยไม่ใช่สนใจแต่เพียงใบปริญญา เราต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติตรงนี้แต่มันก็เป็นเรื่องยากพอสมควรสำหรับสังคมไทย”
…………………………………
เรื่องปลอมวุฒิการศึกษาก็เป็นปัญหามานานโขแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนจะแถลงแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรมสักที สงสัยว่าคงต้องรอให้เด็กป.1 ใช้แทบเล็ตเข้า Facebook ไปสั่งปลอมวุฒิเสียก่อนล่ะมั้ง กระทรวงศึกษาฯ ถึงจะว่างเร่งพิจารณาหาทางออกให้ปัญหานี้สักที ...
ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th : 20 มิถุนายน 2555 18:06 น.
วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น