รถเบนซ์ที่แก๊งคนร้ายลักมาจากบ้านผู้เสียหาย
ตร.ประเวศรวบแก๊งตีนแมว ตระเวนงัดลักทรัพย์ตามหมู่บ้าน หลังเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในหมู่บ้านนุศาสิริ ย่านกาญจนาภิเษก 22 แล้วฉกเบนซ์ขับหลบหนีไปด้วย ตร.ตามแกะรอยจนพบแก๊งผู้ต้องหาในห้างเซ็นทรัลเมืองพัทยากลาง ก่อนคุมตัวมาสอบและตามยึดทรัพย์สินที่ลักทรัพย์คืนได้ 23 รายการ รวมมูลค่า 10 ล้านบาท สารภาพก่อเหตุมานับครั้งไม่ถ้วน โดยจะนั่งแท็กซี่ตระเวนเข้าไปดูตามหมู่บ้าน หากพบบ้านไหนไม่มีคนอยู่ก็จะเข้าไปงัดแงะลักทรัพย์ทันที เผยเฉพาะหัวหน้าแก๊งมีหมายจับติดตัวถึง 8 หมาย ส่วนลูกน้องก็ไม่ต่างทั้งคดีจำหน่ายยาบ้า-ลักทรัพย์ปล้นทรัพย์
วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.สมศักดิ์ มงคลคุณากร และ พ.ต.ท.เดโช โสสุวรรณากุล สว.สส.สน.ประเวศ ว่า เมื่อเวลา 12.30 น.ของวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ เข้าจับกุมนายสุรสิทธิ์ หรือนาย ราชบัวสี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ที่ 2 ต.โนนสะอาด อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู นายธนวัฒน์ หรือหนุ่ม วิเศษศรี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/98 หมู่ที่ 14 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น และนายอุดมศักดิ์ หรือตี๋ เซี่ยงเห็น อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/2 หมู่ที่ 5 ต.ท่าเสา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี รถเบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน สณ 882 กทม. รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ หมายเลขทะเบียน กย-264 นครราชสีมา ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมป้ายแดง ณ-2728 กทม. จักรยานยี่ห้อแคนนอลเดล รุ่นสไลท์ สีขาว 1 คัน และรุ่นซูเปอร์ซิกซ์ สีขาว อีก 1 คัน พร้อมทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ไอแพด เครื่องเพชร นาฬิกาข้อมือแบรนด์เนมดัง พระเครื่อง และอุปกรณ์งัดแงะชนิดต่างๆ รวมทั้งสิ้น 23 รายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ร้านเคเอฟซีชั้น 5 ห้างเซ็นทรัลพัทยากลาง ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 222/73 หมู่บ้านนุศาสิริ ซอยกาญจนาภิเษก 22 แขวงและเขตสะพานสูง เดินทางกลับมาที่บ้านหลังจากไปพักผ่อนต่างจังหวัด พบว่าบ้านถูกคนร้ายงัดแงะและรื้อค้นเอาทรัพย์สินกับรถเบนซ์คันดังกล่าวออกจากบ้านไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนออกติดตามจับกุมจนกระทั่งพบเบาะแสว่ามีผู้พบเห็นกลุ่มผู้ต้องหา 3 คนกำลังขับรถเบนซ์คันดังกล่าวอยู่บนถนนพัทยากลาง จ.ชลบุรี ก่อนจะขับเข้าไปในห้างเซ็นทรัลพัทยา จึงนำกำลังลงพื้นที่ไปตรวจสอบก็พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนกำลังเดินอยู่ภายในห้างดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวขอตรวจค้นพบกุญแจรถเบนซ์คันดังกล่าวอยู่ในตัวนายสุรสิทธิ์จึงยึดไว้เป็นของกลางก่อนนำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นทั้งสามสารภาพว่าได้ลักรถเบนซ์คันดังกล่าวออกมาจากบ้านผู้เสียหาย และยังมีทรัพย์สินของผู้เสียหายอีกจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง จึงเข้าตรวจยึดก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนมาสอบสวนที่สน.ประเวศต่อ
ทรัพยสินจำนวนมากที่ซุกซ่อนไว้ในห้องพัก
สอบสวนนายสุรสิทธิ์ หัวหน้าแก๊งให้การว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 47 เคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ที่ สภ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ติดคุกอยู่นาน 3 ปี หลังจากพ้นโทษออกมาก็ชวนนายธนวัฒน์ กับนายอุดมศักดิ์ ออกตระเวนงัดแงะตามหมู่บ้านต่างๆ ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดมาโดยตลอด และยังไม่เคยถูกจับได้อีกเลย โดยจะใช้วิธีนั่งรถแท็กซี่ตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆ หากพบว่าบริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านไหนไม่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ก็จะเข้าไปทันที จากนั้นก็สังเกตดูตามบ้านหลังต่างๆ หากพบว่าหลังไหนไม่มีคนอยู่ก็จะปีนเข้าไปทันทีพร้อมทั้งใช้อุปกรณ์งัดแงะที่เตรียมมางัดเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน ก่อนนำออกไปขายแบ่งเงินกัน ทั้งนี้หากพบว่ามีรถจอดอยู่และมีกุญแจรถอยู่ในบ้านขับรถของผู้เสียหายออกมาด้วยเลย
จักรยานก็ไม่เว้น
นายสุรสิทธิ์ให้การต่อว่า สำหรับวันเกิดเหตุพวกตนได้ปีนเข้าไปในบ้านเลขที่ 222/73 ก่อนจะงัดประตูเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินกับจักรยานอีก 2 คันภายในบ้าน นอกจากนี้ยังเจอกุญแจรถเบนซ์วางอยู่ด้วย จึงขนทรัพย์สินกับจักรยานใส่รถเบนซ์แล้วขับออกมาทันที ก่อนจะเข้าไปงัดบ้านอีกหลังหนึ่งได้เครื่องเพชรไปจำนวนมาก โดยตั้งใจว่าจะนำรถเบนซ์ไปขายแต่ยังขายไม่ได้ พวกตนจึงพากันไปงัดบ้านหลังหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ก่อนจะลักเอาทรัพย์สินและขับรถกระบะมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำออกมา แล้วขับกลับ กทม.ไปจอดไว้ที่โรงพยาบาลวิภาวดี ก่อนจะขับรถเบนซ์ไปเที่ยวที่พัทยา จนกระทั่งมาถูกตามจับได้ดังกล่าว
ชี้จุดที่ลอบปีนเข้าไปลักทรัพย์
พ.ต.ท.สมศักดิ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายสุรสิทธิ์ พบว่า ตั้งแต่ปี 47 เป็นต้นมา เจ้าตัวมีหมายจับคดีปล้นทรัพย์และลักทรัพย์ตามจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน และภาคเหนือติดตัวอยู่ถึง 8 หมายจับ ส่วนนายธนวัฒน์เคยถูกจับกุมข้อหาจำหน่ายยาบ้าเมื่อปี 2549 และนายอุดมศักดิ์เคยถูกจับข้อหาลักทรัพย์เมื่อปี 2541 และถูกออกหมายจับคดีปล้นทรัพย์ เมื่อปีที่แล้ว โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนและส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรีต่อไป
ทั้งนี้ หากผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าเคยถูกผู้ต้องหากลุ่มนี้เข้าไปลักทรัพย์ในบ้านก็สามารถเดินทางมาดูตรวจสอบได้ที่ สน.ประเวศ...
ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th
วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น