ตำรวจตามจับกุมแก๊งสาวเวียดนาม หลังจากเดินทางเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ล้วงกระเป๋าบรรดาผู้ชมคอนเสิร์ตเลดี้ กาก้า โดยเฉพาะ แล้วเตรียมบินกลับบ้านเกิดได้คาสนามบินสุวรรณภูมิ พบเข้ามาก่อเหตุช่วงเทศกาลใหญ่ๆ ในไทยโดยเฉพาะแล้วบินกลับในวันรุ่งขึ้นทันที
พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อ วันที่ 25 พ.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.4 ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวเวียดนามที่ร่วมกันก่อเหตุล้วงกระเป๋าของประชาชนที่เดินทางมาชมการแสดงคอนเสิร์ตเลดี้ กาก้า ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ได้ผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย และจากการสืบสวนขยายผลทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 5 รายกำลังจะเดินทางหลบหนีกลับประเทศเวียดนาม เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุมตัวได้ขณะที่ผู้ต้องหากำลังเช็กอิน พร้อมยึดของกลางดังกล่าวได้อีกหลายรายการ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทั้งหมดเป็นแก๊งเดียวกัน โดยได้มีการจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเตรียมหลบหนีกลับประเทศ สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาจะเข้ามาเป็นแก๊งและมีการแบ่งหน้าที่กัน โดยคนแรกจะเข้าไปเบียดและบังไม่ให้คนอื่นเห็น คนที่ 2 ทำหน้าที่ล้วงกระเป๋า และส่งต่อให้คนที่ 3
เบื้องต้นสามารถติดต่อผู้เสียหายได้แล้ว 3 ราย สำหรับผู้ต้องหาแก๊งเวียดนามที่จับกุมได้นั้น ตรวจสอบพบว่าเดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา เมื่อทราบว่าจะมีการจัดงานที่มีประชาชนมาร่วมงานจำนวนมากก็จะเข้ามาตระเวนก่อเหตุ จากนั้นวันรุ่งขึ้นก็จะเดินทางกลับ สำหรับประชาชนที่เดินทางไปดูคอนเสิร์ตเลดี้ กาก้า แล้วถูกล้วงกระเป๋า สามารถเดินทางไปตรวจสอบและรับสิ่งของคืนได้ที่ สน.หัวหมาก สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ น.ส.นันท์ชุดา นันทมานพ อายุ 23 ปี หลานสาวของ พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.3 หนึ่งในผู้เสียหายได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา พร้อมกับดูของกลาง ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 4 ที่ถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าไปขณะที่เดินทางไปชมคอนเสิร์ตเลดี้ กาก้า พร้อมทั้งเปิดเผยว่าตนเดินทางมากับเพื่อนๆ โดยเอากระเป๋าสะพายคล้องแขนไว้ จากนั้นก็มีคนเดินเข้ามาเบียดซึ่งก็จำหน้าได้ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนร้ายเพราะดูมีอายุ ระหว่างที่กำลังจะเดินเข้าประตูเพื่อไปชมคอนเสิร์ตได้ล้วงกระเป๋าเพื่อจะหยิบโทรศัพท์ แต่ก็มารู้ตัวอีกทีว่าหายไปแล้ว...
ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th :26 พฤษภาคม 2555 16:58 น.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น